ในโลกใบนี้อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ ความร่ำรวย การมีสุขภาพที่ดี มีครอบครัวหรือความรักที่อบอุ่น เราคิดว่าทุกคนคงจะมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว เคยมีชาวเน็ตที่ชื่อ Dan Asmussenได้แบ่งปันเรื่องราวดีๆเรื่องหนึ่งบน facebookเรื่องของเขาไม่เพียงแต่ถูกแชร์ต่อกันหลายต่อหลายครั้ง แต่เรื่องราวของเขานั้นยังได้เตือนให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรามีมหาเศรษฐีผู้หนึ่งอยากจะให้ลูกชายของเขามีโอกาสที่จะได้ไปสัมผัสกับความยากจน เพียงเพราะว่าเขาต้องการให้ลูกชายได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่โชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย ดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจพาลูกชายไปใช้ชีวิตในชนบทอันห่างไกลความสบาย พวกเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับชาวบ้านในชนบทเป็นเวลาหลายวัน
และหลังจากที่พวกเขาได้ไปใช้ชีวิตที่ชนบทอยู่หลายวันนั้นพวกเขาก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งมหาเศรษฐีก็ได้ถามลูกชายของเขาว่า “เป็นยังไงบ้างลูก” ซึ่งลูกชายก็ตอบกลับมาสั้นๆว่า “ก็ดีนะครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นมหาเศรษฐีจึงถามต่อว่า “อะไรคือสิ่งที่แตกต่างระหว่างบ้านของเรากับบ้านของพวกเขา”
ลูกชายจึงตอบกลับมาว่า “มันช่างแตกต่างกันมากเหลือเกินครับ บ้านของเราเลี้ยงสุนัข 1 ตัวแต่พวกเขาเลี้ยงถึง 4 ตัว เรามีน้ำสะอาดอยู่ในสระว่ายน้ำแต่พวกเขามีน้ำใสบริสุทธิ์อยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่ ยามค่ำคืน สวนของเรามีแสงจากหลอดไฟคอยให้ความสว่าง ขณะที่ในนาของพวกเขามีแสงจันทร์และแสงดาวคอยส่องประกาย อีกทั้งสวนของเรามีกำแพงคอยกั้นอาณาเขต แต่ที่นั่นไม่มีเขตกั้นสวนของพวกเขา มันแสดงให้เห็นว่ามันสามารถขยายไปจนสุดขอบฟ้า”
“เราอาศัยอยู่บนเกาะที่มีพื้นที่เล็ก ๆ แต่พวกเขาอาศัยอยู่ในทุ่งนาที่มีพื้นที่ที่กว้างขวางและสวยงาม เรามีคนรับใช้คอยบริการเราตลอดเวลา แต่พวกเขาคอยดูแลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราต้องซื้ออาหารทุกวัน แต่อาหารของพวกเขาคือการปลูกด้วยตัวเอง บ้านของเราถูกล้อมรอบด้วยรั้วกำแพง แต่ในชนบทพวกเขายินดีต้อนรับทุก ๆ คน โดยที่ประตูมักจะเปิดกว้างเสมอ”
เมื่อมหาเศรษฐีได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจมากกับสิ่งที่ลูกชายได้รับและต้องประหลาดใจมากขึ้นไปอีกเมื่อลูกชายทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณนะครับพ่อ ที่ทำให้ผมได้รู้ว่าเรายากจนขนาดไหน”หลายๆครั้งเรามักจะมุ่งมั่นแสวงหาในสิ่งที่เราไม่มี และชอบลืมในสิ่งที่เรามีอยู่รอบๆตัว บางทีเราอาจจะคิดว่าสิ่งที่มีอยู่รอบๆตัวเรานั้นไม่มีคุณค่าต่อเรา แต่มันอาจจะเป็นสิ่งที่ผู้อื่นกำลังมองหาอยู่ก็ได้ เราควรจะเรียนรู้ในวิธีคิดของเด็กชายคนนี้ด้วยมุมมองที่ดี เพื่อว่ามันจะได้คอยเตือนเราอยู่ตลอดเวลาว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา
ที่มา : http://www.patjaa.com/
และหลังจากที่พวกเขาได้ไปใช้ชีวิตที่ชนบทอยู่หลายวันนั้นพวกเขาก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งมหาเศรษฐีก็ได้ถามลูกชายของเขาว่า “เป็นยังไงบ้างลูก” ซึ่งลูกชายก็ตอบกลับมาสั้นๆว่า “ก็ดีนะครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นมหาเศรษฐีจึงถามต่อว่า “อะไรคือสิ่งที่แตกต่างระหว่างบ้านของเรากับบ้านของพวกเขา”
ลูกชายจึงตอบกลับมาว่า “มันช่างแตกต่างกันมากเหลือเกินครับ บ้านของเราเลี้ยงสุนัข 1 ตัวแต่พวกเขาเลี้ยงถึง 4 ตัว เรามีน้ำสะอาดอยู่ในสระว่ายน้ำแต่พวกเขามีน้ำใสบริสุทธิ์อยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่ ยามค่ำคืน สวนของเรามีแสงจากหลอดไฟคอยให้ความสว่าง ขณะที่ในนาของพวกเขามีแสงจันทร์และแสงดาวคอยส่องประกาย อีกทั้งสวนของเรามีกำแพงคอยกั้นอาณาเขต แต่ที่นั่นไม่มีเขตกั้นสวนของพวกเขา มันแสดงให้เห็นว่ามันสามารถขยายไปจนสุดขอบฟ้า”
“เราอาศัยอยู่บนเกาะที่มีพื้นที่เล็ก ๆ แต่พวกเขาอาศัยอยู่ในทุ่งนาที่มีพื้นที่ที่กว้างขวางและสวยงาม เรามีคนรับใช้คอยบริการเราตลอดเวลา แต่พวกเขาคอยดูแลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราต้องซื้ออาหารทุกวัน แต่อาหารของพวกเขาคือการปลูกด้วยตัวเอง บ้านของเราถูกล้อมรอบด้วยรั้วกำแพง แต่ในชนบทพวกเขายินดีต้อนรับทุก ๆ คน โดยที่ประตูมักจะเปิดกว้างเสมอ”
เมื่อมหาเศรษฐีได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจมากกับสิ่งที่ลูกชายได้รับและต้องประหลาดใจมากขึ้นไปอีกเมื่อลูกชายทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณนะครับพ่อ ที่ทำให้ผมได้รู้ว่าเรายากจนขนาดไหน”หลายๆครั้งเรามักจะมุ่งมั่นแสวงหาในสิ่งที่เราไม่มี และชอบลืมในสิ่งที่เรามีอยู่รอบๆตัว บางทีเราอาจจะคิดว่าสิ่งที่มีอยู่รอบๆตัวเรานั้นไม่มีคุณค่าต่อเรา แต่มันอาจจะเป็นสิ่งที่ผู้อื่นกำลังมองหาอยู่ก็ได้ เราควรจะเรียนรู้ในวิธีคิดของเด็กชายคนนี้ด้วยมุมมองที่ดี เพื่อว่ามันจะได้คอยเตือนเราอยู่ตลอดเวลาว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา
ที่มา : http://www.patjaa.com/