พี่ชายมาตามหาน้องชายที่สามพราน นครปฐม หลังจากติดต่อไม่ได้ แต่เมียน้องไม่ยอมให้เข้าบ้านต้องไปแจ้งตำรวจให้มาช่วยตรวจในบ้าน ผงะพบศพแห้งกรังในห้อง เมียบอกผัวป่วยตายกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ไม่ยอมบอกใคร เพราะรักมากกลัวต้องพรากจากกัน...
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 58 นายชนะ สุขเจริญ อายุ 52 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี ได้เข้าแจ้งความขอความช่วยเหลือจาก ร.ต.อ.เนติ ศิริสกุล ร้อยเวร สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม ว่า ตนเองมีอาชีพค้าขายของเบ็ดเตล็ด อยู่ จ.เพชรบุรี ได้เดินทางมาหานายวิเชียร สุขเจริญ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 10 ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร น้องชายที่ทำงานเป็น รปภ.ให้กับหลายบริษัทในพื้นที่ อ.สามพราน พักอาศัยอยู่กับภรรยา ชื่อนางสุนภา นามกร อายุ 50 ปี ชาว ต.วังกระแจะ อ.เมืองตราด โดยทั้งคู่อาศัยอยู่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 6 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม
นายชนะ เล่าต่อไปว่า เมื่อตนเองเดินทางมาถึงบ้านพักของน้องชาย พบเพียงนางสุนภา ภรรยาของน้องชาย แต่นางสุนภา ไม่ยอมเปิดประตูรั้วบ้านให้เข้าไป ตนเองจึงได้แต่ยืนคุยกับนางสุนภา ที่หน้าประตูรั้ว สอบถามหาน้องชาย นางสุนภาตอบว่านายวิเชียร ได้เสียชีวิตไปแล้วเดือนกว่า ตนเองจึงถามว่าเอาศพไปไว้ที่วัดไหน นางสุนภา ก็ไม่ยอมตอบแถมเดินหนีเข้าบ้านไป ตนจึงไปสอบถามจากชาวบ้านข้างเคียงและวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ไม่ห่างจากบ้าน ว่า เคยพบเห็นน้องชายตนหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่เคยเห็นมาเดือนกว่าแล้ว แต่ก่อนนายวิเชียรจะต้องมาขึ้นรถที่ท่ารถทุกวัน แต่จู่ๆ ก็หายไป ทำให้ตนสงสัยว่าน้องชายตนหายไปไหน และนางสุนภา ภรรยาน้องชายก็มีท่าทางลับๆ ล่อๆ จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบในบ้านให้หน่อย
เมื่อทราบดังนั้นจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พ.ต.ท.ประสม หงส์โต รอง ผกก.สส. นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นอภ.สามพราน ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบ้าน พบว่าเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ อยู่ในเนื้อที่ 80 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด จึงแสดงตัวขอพบนางสุนภา ซึ่งนางสุนภาเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกมาพูดคุย และยินยอมให้เข้าไปตรวจภายในบ้าน เมื่อเข้าไปถึงบริเวณบ้านเริ่มได้กลิ่นโชยมาเล็กน้อย โดยที่ชั้นล่างมีการจัดวางสิ่งของไว้อย่างดี แต่เมื่อขึ้นบันไดไปชั้นที่ 2 ซึ่งพื้นปูปาเก้สวยงาม มีห้องนอน 2 ห้อง หันหน้าชนกันตรงกลาง มีทางเดิน ส่วนห้องที่ 3 เป็นห้องใหญ่สำหรับเก็บของ
เจ้าหน้าที่เปิดประตูห้องนอนด้านขวามือ ติดบันไดทางขึ้นก็ถึงกับผงะ เมื่อเห็นศพนายวิเชียร สภาพนุ่งกางเกงขาสั้นลายดอกสีเขียว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า นอนหงายหนุนหมอนอยู่ในสภาพเนื้อตัวแห้งติดกระดูกนอนอยู่กลางห้องบนพื้นไม้ มีผ้าห่มเป็นผ้าลูกไม้สีขาว วางกองอยู่ด้านข้างศพ สภาพเนื้อตัวของศพสะอาดเหมือนมีการดูแลเช็ดถูทำความสะอาดอยู่ตลอด ภายในห้องบนโต๊ะพบกระป๋องแป้งฝุ่นหอมตั้งอยู่ 4-5 กระป๋อง บริเวณพื้นไม้โดยรอบยังสะอาด ไร้ฝุ่นเกาะ เมื่อหันไปมองนางสุนภา ที่พาเจ้าหน้าที่ขึ้นมาดู พร้อมกับสอบถาม ปรากฏว่านางสุนภา ถึงกับร้องไห้ออกมา ก่อนจะนั่งลงลูบไปมาที่ขาศพตลอดเวลา
เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาให้นางสุนภา สงบสติอารมณ์ จากนั้นจึงได้สอบถาม ซึ่งนางสุนภา เปิดเผยว่า นายวิเชียร ได้เสียชีวิตมาตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 58 ด้วยโรควัณโรค โดยตนอยู่กินกับนายวิเชียรสามีมาได้ 5-6 ปี ช่วงที่อยู่ด้วยกันนั้นรักกันมาก มีทะเลาะกันบ้างแต่ก็เล็กน้อย ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือ บ้านหลังนี้เป็นของญาติตน เจ้าของอยู่จ.จันทบุรี ไม่ค่อยได้มา และให้ตนเองมาเฝ้าดูแลเพราะกลัวของหาย จนต่อมารู้จักกับนายวิเชียรจึงได้อยู่กินกันที่บ้านหลังนี้ จนกระทั่งเมื่อ 3 เดือนก่อนจะเสียชีวิต นายวิเชียรเกิดป่วย ตนจึงพาไปหาหมอที่ รพ.สามพราน ตรวจแล้วเอายามากิน จนเริ่มป่วยหนักขึ้น นายวิเชียรจึงลาออกจากการเป็น รปภ.มารักษาตัว เพราะทำงานไม่ไหว และไม่ค่อยยอมไปหาหมอ กระทั่งอาการหนักขึ้นและเสียชีวิตในที่สุด
เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่า ทำไมไม่จัดทำพิธีทางศาสนา นางสุนภา กล่าวทั้งน้ำตา ว่าไม่อยากให้สามีพลัดพรากจากไปไหน เพราะรักกันมาก อยากให้อยู่ด้วยกันตลอดไป หากถ้านำศพไปประกอบพิธีฝังหรือเผา ก็จะแยกจากกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน การตายของสามีตนจึงปิดเป็นความลับ กลัวว่าคนจะมาแยกจากกัน ส่วนศพนั้นตนเองคอยมาทำความสะอาดให้ทุกวัน คอยเปลี่ยนเสื้อผ้า และทาแป้งให้ เวลากลางคืนก็จะใช้ผ้าลูกไม้คลุมให้ เพื่อป้องกันแมลงมากัด หาข้าว หาน้ำมาวางไว้ให้ และจะเปลี่ยนทุกวัน โดยไม่มีการจุดธูป ส่วนเวลานอนตนก็จะแยกไปนอนที่ห้องตรงข้าม ไม่ได้นอนร่วมด้วย หลังจากพูดจบ นางสุนภาก็นั่งลงกอดศพร้องไห้อย่างน่าเวทนา
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว กล่าวว่า ได้แจ้งกองวิทยาการ ภาค 7 ให้มาตรวจสอบ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปที่ รพ.สามพราน เพื่อตรวจสอบประวัติคนไข้ที่เข้ารับการรักษา ซึ่งผลการตรวจสอบของกองวิทยาการพบว่า การเสียชีวิตไม่ใช่เกิดจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ส่วน รพ.สามพราน ได้มอบเอกสารการรักษานายวิเชียร ซึ่งป่วยเป็นวัณโรค เข้ารับการรักษาเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ในส่วนของนายชนะ สุขเจริญ พี่ชายของผู้ตาย หลังจากที่ดูเอกสารต่างๆ แล้ว ไม่ติดใจเอาความ เพราะเคยคุยกับน้องชายเมื่อ 2 เดือนก่อน น้องชายยังบอกว่าได้ลาออกจากงาน เพื่อมารักษาวัณโรค จึงไม่ติดใจการตาย แต่จะขอนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเทียนดัด อ.สามพราน 1 คืน จากนั้นจะทำพิธีเผาศพให้ต่อไป
ขณะที่นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นายอำเภอสามพราน เผยว่า หลังจากที่ได้มาตรวจดูสภาพแล้ว ได้รายงานให้นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.ทราบ และได้สั่งการให้ อบต.ท่าข้าม เจ้าของพื้นที่เข้าไปดูแลนางสุนภา ภรรยาของผู้ตายแล้วในเบื้องต้น จากนั้นจะส่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครปฐม เข้าไปดูแลสภาพจิตใจ และตรวจดูให้แน่ชัดว่านางสุนภา ป่วยทางจิตหรือไม่ พร้อมกับให้หน่วยกาชาด จ.นครปฐม ให้การช่วยเหลือด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการเก็บศพไว้ในบ้านโดยไม่ยอมเผาแบบเดียวกันนี้ เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มาแล้ว เมื่อเดือน มี.ค. 2558 ที่ผ่านมา โดยพ่อเฒ่าวัย 76 ปี เก็บศพภรรยาไว้ในบ้าน กางมุ้งคลุมไว้อย่างดีนานถึง 10 เดือน อ้างว่าเมียสั่งไว้ไม่ให้เผา และยากจน ไม่มีเงินซื้อโลงศพ
ที่มา:http://www.bigza.com/news-177580