“ซาร่า คาซิงกินี” เข้าใจหัวอก “เมียปีเตอร์” บอกเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว เชื่อเข้มแข็งผ่านไปได้ ปลื้ม “น้องแม็กซ์เวลล์” อายุครบ 1 ขวบให้ทองเป็นของขวัญวันเกิด ด้าน “ไมค์-ครอบครัว" ยังไม่มีอะไรให้ เหน็บฝ่ายชายหายหน้า 2 เดือนไม่รู้อยากเจอลูกชายหรือไม่ เชิ่ดใส่ไม่เศร้า ไม่สน ไม่แบมือขอเงินค่าเลี้ยงดู ย้ำหนักๆ “พ่อ” ไม่จำเป็นสำหรับลูก
เพิ่งมีภาพ “พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์” ภรรยา “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” ร่วมปาร์ตี้วันเกิดครบรอบ 1 ขวบ “น้องแม็กซ์เวลล์” ไปหมาดๆ ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอตัว “ซาร่า คาซิงกินี” ซึ่งมารับรางวัลคุณแม่ดีเด่นในงาน “Amarin Baby & Kids Fair” ครั้งที่ 6 ณ ไบเทค บางนา โดยซาร่ายอมรับว่ามีความสนิทสนมกับภรรยาพระเอกดัง บอกอยากให้อีกฝ่ายอยู่นิ่งๆ เพราะตนผ่านจุดนั้นมาแล้ว พร้อมเปิดใจ “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ยังไม่ให้อะไรเป็นของขวัญลูกชาย ไม่รู้ครอบครัวอีกฝ่ายอยากเจอหลานหรือไม่ เชิดใส่ไม่แคร์ ย้ำ “พ่อ” ไม่จำเป็นสำหรับลูก
“คือเป็นเรื่องของครอบครัวคนอื่น เราก็ไม่อยากจะพาดพิง คือพี่พลอยแกก็เป็นคนร่าเริงสดใส อยู่ในงานเขาก็ยิ้ม เข้มแข็ง เขาเป็นคนเข้มแข็งอยู่แล้วค่ะ ส่วนเรื่องให้คำปรึกษา เราผ่านอะไรแบบนั้นมาแล้ว เราอยู่นิ่งๆ ดีกว่า คือในงานก็ไม่ได้มีโมเมนต์เครียดอะไร ในงานมีการเอ็นตอร์เทน มีเล่นเกมแม่ลูกอุ้มกัน พี่พลอยก็เล่นสนุกสนาน สลับลูกกัน มีน้องพูม่า น้องแพนเตอร์ วุ่นๆ กันไปมาค่ะ ส่วนที่คนมองว่าเราสนิทกันแล้วพี่พลอยต้องมาปรึกษาปัญหากับเรา (หัวเราะ) ไปถามพี่พลอยดีกว่าค่ะ”
บอกวันเกิดให้ทองเป็นของขวัญ “แม็กซ์เวลล์” ส่วน “ไมค์-ครอบครัว" ไม่ได้ให้อะไร ไม่รู้อยากเจอลูกชายหรือไม่
“งานวันเกิดที่จัดให้น้องก็เป็นธีมมินเนี่ยนน่ารักๆ น้องเขาครบ 1 ปีแล้วก็เลยจัดให้ใหญ่ๆ แล้วก็ชวนเพื่อนๆ มางาน ส่วนน้องรู้เรื่องไหม อันนี้ก็ไม่รู้สิ(หัวเราะ) ก็คิดว่าน่าจะรู้เรื่องค่ะ คือจริงๆ ตอนน้องครบปีหนึ่ง น้องป่วยในงาน น้องก็กินยาไปแล้วก็เหมือนซึมๆ งอแง แต่พอหลังจากงานเสร็จปุ๊บก็ค่อยร่าเริง (หัวเราะ)”
“เราก็มีทองให้น้องแล้วก็มีรถสปอร์ตคันเล็กๆ แต่ให้แค่ตอนเด็กนะ ตอนโตไม่ให้ (หัวเราะ) เพื่อนๆ ก็ให้ของเล่นปกตินี่แหละค่ะ ก็จะมีคุณพ่อคุณแม่ซาร่าก็จะให้ทอง ส่วนมากน้องได้ทองค่ะ ครอบครัวไมค์ก็ยังไม่ได้ให้อะไร คือเหมือนเรายังไม่ได้คุยไง (หัวเราะ) เหมือนต่างคนต่างอยู่ เราก็ไม่รู้ว่าเขาอยากเห็นหลานไหม เพราะพอเราไม่ได้คุยก็เลยยังไม่ได้เจอ ก็ต่างคนต่างอยู่”
“ส่วนไมค์ก็ยังไม่ได้ให้ค่ะ เพราะว่ายังไม่ได้คุยกัน เขาก็ไม่ได้เฟสไทม์มาค่ะ เหมือนเขาอยู่ที่จีน สัญญาณมันไม่ค่อยดี เหมือนขึ้นไปบนเขาไม่ค่อยมีสัญญาณ ก็ไม่ได้เฟสไทม์ ก็ยังไม่ได้โทร.ค่ะ คือจะ 2 เดือนแล้วที่ไม่ได้เจอ แต่เห็นในไอจีเขาอวยพรให้แม็กซ์เวลล์ ก็ดีๆ (หัวเราะ)”
เชิ่ดใส่ไม่เศร้า ไม่สน เพราะทำใจกับการเป็นซิงเกิ้ลมัมนานแล้ว บอก “พ่อ” ไม่จำเป็นสำหรับ “แม็กซ์เวล”
“ไม่เศร้านะ คือจริงๆ เหมือนกับเราชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเราเป็นซิงเกิลมัม คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เราก็จะสอนลูกในมุมที่ว่าเราเป็นทั้งพ่อและแม่ คือพ่อเขาไม่ได้มีความจำเป็นขนาดนั้น พ่อก็เหมือนเพื่อนแม่คนหนึ่งอะไรประมาณนี้ ถึงเขาจะมาจะอยู่ไม่อยู่ มันเป็นพาร์ตของเขาแล้ว ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว เพราะเราคิดว่าเราชัดเจน เราให้ลูกเราเต็มที่ ไม่ได้ทำให้ลูกรู้สึกขาดอะไรค่ะ คือเขาไม่ได้เลี้ยงเนอะ อย่างที่บอกเราชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเราเป็นซิงเกิลมัม เราก็ต้องเลี้ยงลูกเองอยู่แล้ว ตัวเขา เขาเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์การเลี้ยงลูก อยู่ดีๆ จะให้มาเลี้ยงลูกก็คงไม่ถนัดมั้ง เขาคงถนัดงานในวงการมากกว่า”
“ไม่กลัวไมค์น้อยใจค่ะที่บอกว่าพ่อไม่จำเป็นสำหรับลูก คือเราคุยกันเคลียร์แล้ว ต่างคนต่างอยู่ ใช้ชีวิตใครชีวิตมัน คือเรื่องของลูกเนี่ย ถ้าไมค์เขาอยากจะมาหรือไม่มา ลูกจะแฮปปี้กับเขาหรือไม่แฮปปี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขาแล้ว ไม่ได้อยู่ที่เรา ต่างคนต่างทำหน้าที่ค่ะ คือเราไม่เคยปิดกั้นเลยจริงๆ เราคุยกับเขาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมาหาลูกอะไรยังไง เราให้สิทธิ์เขาเต็มที่ เพราะหนึ่งคือเขาเป็นพ่อ ถ้าเกิดว่าเขาอยากจะทำหน้าที่ อยากจะทำอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับลูก เราเปิดกว้างอยู่แล้ว อยู่ที่ตัวเขา ไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา”
ยันไม่เคยเรียกร้องค่าเลี้ยงดู แล้วแต่ “ไมค์ พิรัชต์” จะให้ ย้ำคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ควรแบมือขอเงินจากใคร ผุดธุรกิจปั๊มเงินเลี้ยงลูก
“เราเองไม่เคยเรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเลี้ยงดูอะไร คือมันอยู่ที่ตัวเขาว่าเขาจะช่วยหรือไม่ช่วย ช่วยก็ดีไม่ช่วยก็แล้วแต่ค่ะ คือเหมือนเราไม่ได้คุยกันเป็นกิจจะลักษณะว่าแต่ละเดือนคุณต้องให้เราเท่านี้ มันแล้วแต่เขาสะดวกดีกว่า ที่ผ่านมาก็มีบ้าง ที่เขายื่นมือมาช่วยเหลือ”
“พูดง่ายๆ ตั้งแต่ที่เราท้อง เรารู้ว่าเราต้องเป็นซิงเกิลมัมจนลูกเราคลอด เราก็ต้องวางแผนคิดอนาคตแล้ว ว่าลูกเราจะเรียนอะไร คือไม่ได้มานั่งแคร์ว่าต้องมารอเงินจากพ่อ รอความช่วยเหลือจากพ่อ อะไรจากพ่อ คือเรามีลูกแล้ว อนาคตต้องวางแผนยาวๆ ถ้าเรามานั่งรอ แล้วมันไม่ได้ แล้วเราจะทำยังไงกับลูก เพราะฉะนั้นอนาคตเราต้องคุยกับตัวเราเองแล้วว่า เราจะซัปพอร์ตเราจะเลี้ยงน้องยังไง คือตัวซาร่ามีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ ไหว ก็จะมีร้านอาหารที่เปิดอยู่แล้ว แล้วก็จะมีพวกโปรดักส์เกี่ยวกับความสวยความงาม เกี่ยวกับเรื่องแม่ลูก เสื้อผ้าเด็กอ่อนอะไรประมาณนี้ค่ะ ทำเองหมดค่ะ ออกแบบตัดเย็บเองที่บ้านค่ะ ก็ลงทุนประมาณหนึ่ง ทำคนเดียว คือเราเป็นคนที่ไม่ชอบหุ้นกับใคร เพราะว่าปัญหามันเยอะ คือล้มก็ล้มเองดีกว่า ไม่ชอบมีปัญหากัน อย่างเห็นคนที่เขามีปัญหากันมีโกงกัน คือสมมุติว่าถ้าได้เราก็ได้คนเดียวดีกว่า ได้เต็มๆ คือเราก็ระมัดระวังตัวพอสมควร”
ปลื้มใจได้รางวัลแม่ดีเด่น รับเหนื่อยแต่สุข บอก “แม็กซ์เวลล์” เลี้ยงง่าย เลี้ยงแบบไทยผสมฝรั่ง
“ก็รู้สึกดีที่ทุกคนโหวต ให้กำลังใจ เห็นความพยายามของเราในการเลี้ยงลูก เราก็เลี้ยงลูกมา 1 ปีเต็มแล้วค่ะ ซึ่งถามว่าเหนื่อยไหม มันก็เหนื่อยเป็นปกติเหมือนคนเป็นแม่ ที่จะต้องเลี้ยงลูกแล้ว แต่ความเหนื่อยทั้งหมด มันเหนื่อยแบบมีความสุขค่ะ มันเหมือนเป็นอาชีพหนึ่งที่เรารู้สึกรัก เพราะฉะนั้นเวลาเราทำไป เหนื่อย สุข เหนื่อย สุข มันก็โอเคค่ะ แล้วก็โชคดีที่น้องเลี้ยงง่ายค่ะ ตอนนี้ก็คุ้นชินกับการเป็นแม่แล้ว 1 ปีเต็มแล้ว คือเราก็ไม่ได้มีหลักเกณฑ์อะไรการเลี้ยงลูก เราไม่ได้มองว่าเป็นหน้าที่ เราเลี้ยงด้วยความรักความเอาใจใส่ เลี้ยงอย่างใกล้ชิด ไม่ได้ว่าต้องมีแบบว่าจะต้องเลี้ยงเขาแบบนี้ๆ แล้วการที่น้องเป็นผู้ชาย แต่เราที่เป็นผู้หญิง พอมาเลี้ยงก็ไม่น่าจะยากนะคะ เราก็เลี้ยงแบบผสมๆ คุณแม่ซาร่าก็เป็นคนไทย คุณพ่อเป็นชาวต่างชาติก็เลี้ยงผสมๆ”
ที่มา:http://www.bigza.com/news-175949